ที่เที่ยว เชียงราย ตลอดทางขึ้นเหนือ ต้องขึ้นไปถึงจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย เชียงราย พรมแดนระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และพม่า เมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จัดเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ภาษาท้องถิ่นที่น่าฟังวัฒนธรรมหลากเชื้อชาติและมีศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม มีอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานหลายแห่ง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว คนชอบขึ้นไปบนภูเขาเพื่อชมทะเลหมอก และสัมผัสอากาศเย็นๆเมื่อเดินทางไปเชียงราย ไหว้พระ ชมธรรมชาติ และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเขา ณ ดินแดนเหนือสุดของประเทศไทย เรามาจดรายการวางแผนการเดินทางกันแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เราเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย มาดูกันว่ามีสถานที่ที่น่าสนใจอะไรบ้าง
ที่เที่ยว เชียงราย วัดพระแก้ว
ที่เที่ยว เชียงราย วัดเก่าแก่ในอำเภอเมืองเชียงราย เช่น วัดพระแก้ว เดิมเรียกว่า “วัดป่ายา” หรือ “วัดป่าเอี๊ยะ” (เป็นป่าไผ่ชนิดหนึ่งที่เติบโตภายในวัดเป็นจำนวนมาก) ต่อมาในปี พ.ศ. ปี พ.ศ. 2520 พบพระแก้วมรกตที่เจดีย์ด้านหลังวัด จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดพระแก้ว ซึ่งเป็นวัดประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โดดเด่นด้วยวิหาร วัดล้านหน้า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2433 มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และได้รับการบูรณะในเวลาต่อมา ด้านในเป็นพระพุทธรูป พระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย ตระกูลช่างปะปาที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในประเทศไทย และพระหยกเชียงราย มีชื่อเต็มว่า “พระพุทธรัตนากร นวุติวัสนุสรณ์มงคล” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในหอพระหยก ซึ่งเป็นอาคารสไตล์ล้านนาโบราณ คุณสามารถเข้าไปชมความงามและสักการะขอพรได้ มีเจดีย์ด้วย แหล่งโบราณคดีที่ค้นพบพระแก้วมรกต พิพิธภัณฑ์ห้องหลวงแสงแก้ว จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญๆ และพระพุทธรูปวัดหนองบัวสดประดิษฐานอยู่ใต้ต้นโพธิ์ด้านหลังเจดีย์ มาเที่ยวเชียงรายอย่าลืมแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล วัดพระแก้ว
ไฮเดรนเยียซัง
ไฮเดรนเยียซัง สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่สวยงาม ดอกไฮเดรนเยียซัง สวนดอกไม้บนดอยแม่ม่อน ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งเป็นช่อสีฟ้า-น้ำเงินสวยงามกระจายทั่วบริเวณ มีทัศนียภาพภูเขาเป็นฉากหลัง ฉากที่อยู่ตรงหน้าเขาสวยงามมากราวกับเทพนิยาย มีมุมถ่ายรูปให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่นี่มากที่สุดและช่วงแนะนำคือช่วงเช้า-บ่ายแก่ๆ เพราะอาจโชคดีมีทะเลหมอกเป็นฉากหลังลอยอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปทั้งสวยงามและมหัศจรรย์ไม่แพ้กัน ส่วนการเดินทางก็ต้องทำงานสักหน่อย ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ และไม่มีร้านขายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ด้านบน ใครอยากนั่งพักผ่อนหรือใช้เวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่นี่บ้างคะ? แนะนำให้นำอาหารมาเพื่อดับความหิว รับรองว่าเดินถ่ายรูปได้ทั่วทุ่งดอกไม้ ดอกจะบานสะพรั่งในช่วงปลายปีถึงเดือนกุมภาพันธ์
วัดร่องเสือเต้น
วัดร่องเสือเต้น วัดที่สวยงามริมแม่น้ำกก ในเมืองเชียงราย เคยเป็นวัดร้าง และต่อมาชาวบ้านได้บูรณะใหม่ สะดุดตากับวัดสีน้ำเงิน หรือวัดร่องเสือเต้น ออกแบบโดยศิลปินท้องถิ่นเชียงราย นายพุทธ กับแก้ว ลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 11 ปี เป็นวัดสีน้ำเงินขนาดใหญ่ประดับขอบทอง ด้านหน้ามีนาคใหญ่สองตัว ด้านในมีพระพุทธรูป พระพุทธราชมงคลบดีไตรโลกนาถ พระพุทธรูปสิงห์ขาวมุก ศิลปะเชียงแสน บริเวณรอบพระเศียรเต็มไปด้วยพระบรมสารีริกธาตุ มีพระรอดลำพูนด้วย และแหวนเงินและทองฝังไว้ใต้องค์พระ มีจิตรกรรมฝาผนังทั่ววัด ทั้งผนังและเพดาน ด้านหลังวัดมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว พระพุทธมิ่ง และเจดีย์ นอกจากนี้รอบๆ วัดยังมีสถาปัตยกรรมปูนปั้นต่างๆ สามารถเดินชมความสวยงามได้ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
สวนคุณปู่ life museum
สวนคุณปู่ life museum คาเฟ่ลับที่ตอนนี้เชื่อว่าจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป ตั้งอยู่กลางดอยผาหมี ในสวนส่วนตัวกลางหุบเขา ใกล้ที่พัก สราญรมย์ บาย สวนปู่ บรรยากาศดีมาก บ่อธรรมชาติที่เลี้ยงปลาคราฟ ล้อมรอบด้วยนาข้าวขั้นบันได ท่ามกลางธรรมชาติสามารถเห็นภูเขาใกล้เคียง ตัวร้านมีลักษณะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นเชิงเขา ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตัวอาคารเปิดรับลมเย็นจากธรรมชาติ มีระเบียงที่ให้ความเย็นสบายสำหรับห้อยขา ที่จอดรถอยู่ห่างจากร้านประมาณ 100 เมตร ต้องเดินลงทางลาดชันเล็กน้อย ลักษณะที่เห็นในมุมกว้างเปรียบเสมือนแอ่งน้ำกลางภูเขา ซึ่งดูสวยงามและแอบแปลกมาก ในส่วนของอาหาร มีบริการครบวงจรทั้งอาหารจานหลัก ของว่าง ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่หลากหลาย เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการจอดรถและเติมพลังของคุณ บอกเลยว่าใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวดอยผาฮี้และดอยผาหมีไม่ควรพลาดครับ
วัดร่องขุ่น
วัดร่องขุ่น วัดชื่อดังที่แทบไม่มีใครรู้จัก วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน (เพราะมีอาคารใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาตลอดเวลา) ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยวัดสีขาวบริสุทธิ์ที่ประดับด้วยกระจก ที่มีสถาปัตยกรรมที่ละเอียดอ่อนสวยงามใส่ใจในรายละเอียดเพื่อสื่อสารพระพุทธศาสนา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามมาก นอกจากวัดแล้ว ภายในบริเวณวัดยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมอีกหลายจุด เช่น หอระฆังโฆสกะโร ศาลาธรรม ลานธรรม บ่อน้ำสวดมนต์ ห้องน้ำสีทอง แกลเลอรี่ หอศิลป์ของอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และคนอื่นๆ. เป็นวัดที่น่าไปเยี่ยมชมอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของอาจารย์เฉลิมชัย ที่ต้องการสร้างวัดเพื่ออุทิศตนเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และมวลมนุษยชาติ ที่เที่ยว เชียงราย
บทความแนะนำ