เที่ยวอุตรดิตถ์ ลับแล เมืองโบราณที่มีตำนานเล่าขานกันมาว่าเป็นเมืองล่องหน คนที่มีบุญญาธิการและอยู่ในศีล ไม่พูดปดโกหกเท่านั้นถึงจะได้เห็นเมืองนี้ และหากใครในเมืองพูดโกหกก็ต้องโดนเนรเทศออกจากเมือง ไม่สามารถกลับมาเข้าเมืองแห่งนี้ได้อีก แต่ปัจจุบันลับแลไม่ได้ลับลวงพรางอีกต่อไป เพราะที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม ชาวบ้านในท้องถิ่นต่างยินดีต้อนรับ และพร้อมที่จะแสดงวัฒนธรรมและของดีของเด็ดให้ผู้มาเยือนได้เห็น วันนี้เราจึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวลับแลมาฝากกันค่ะ ซึ่งมีไม่น้อยเลยนะ เมืองเล็ก ๆ แต่มีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่เพียบ ว่าแล้ว ก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง 🙂
เที่ยวอุตรดิตถ์ ซุ้มประตูเมืองลับแล
เที่ยวอุตรดิตถ์ ตั้งอย่างสง่างามอยู่บริเวณเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสุโขทัยประยุกต์สีเหลืองเปลือกไข่ สูงประมาณ 10 เมตร ยาว 41 เมตร บนซุ้มประตูมีตัวอักษรเขียนว่า “เมืองลับแล” ออกแบบโดยกรมศิลปากร ที่ด้านข้างของซุ้มประตูมีสวนสีเขียว ซึ่งมีรูปปั้นของหญิงสาวยืนอุ้มลูกน้อยสีหน้าเศร้า ข้าง ๆ มีสามีนั่งก้มหน้า ในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้น ลักษณะคล้ายกับจะออกเดินทางจากเมืองลับแล ตามตำนานเมืองลับแล ซุ้มประตูเมืองลับแล
พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล
พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล ตั้งอยู่บนถนนอินใจมี ตำบลศรีพนมมาศ เป็นสถานที่เผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวิถีชีวิตชุมชนของเมืองลับแลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งประวัติของพระศรีพนมมาศ ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้โบราณ ซึ่งทั้งหมดนี้จัดแสดงอยู่ในเรือนไทยโบราณ รอบ ๆ เรือนเป็นสวนหย่อมสวยงาม บรรยากาศร่มรื่น มีสนามกว้างอยู่ด้านหน้า และถ้าใครอยากลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของชาวลับแล ก็มีการจัดขันโตกสำหรับมื้อค่ำไว้บริการด้วย
ถนนคนกิน
ถนนคนกิน เป็นฉายาของถนนราษฎร์อุทิศ ตำบลศรีพนมมาศ เพราะถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านของกินพื้นเมืองอร่อย ๆ มากมาย และยังเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังร้านอาหารอร่อย ๆ ร้านอื่น ๆ ในเมืองลับแลด้วย เมื่อมาเยือนถนนเส้นนี้สิ่งที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ จ่าจู๊ดหมูย่าง, เจ๊นีย์ของทอด, ข้าวพันผักอินดี้, ป้าหว่างหมี่พันลับแล, ร้านข้าวพันผักพื้นบ้าน, ข้าวมันไก่ไหหลำ, เจ๊ศรีก๋วยเตี๋ยวสุกี้, ผัดไทยป้าน้อย, ก๋วยจั๊บสามหนุ่ม, แป้งจี่แม่บุญส่ง เป็นต้น นอกจากนี้ในถนนเส้นใกล้เคียงก็มีร้านอร่อยให้ไปลิ้มลองอีกมากมาย อาทิ ลับแลม่วนใจ๋, ก๋วยเตี๋ยวรักไอติม, ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าบุญมี, ร้านป้าเบิ้มก๋วยเตี๋ยวไทย, ลับแลปลาเผา เป็นต้น
อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ
อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ ตั้งอยู่ใจกลางตำบลศรีพนมมาศ ใกล้กับตลาดสดเทศบาลศรีนพมาศ ด้านหน้ามีอักษรเขียนอย่างโดดเด่นว่า “เขตห้ามพูดโกหก” สำหรับพระศรีพนมมาศนั้น นามเดิมชื่อว่า นายทองอิน นายอากรสุราเชื้อสายจีน ซึ่งได้มุ่งมั่นพัฒนาเมืองลับแลให้เจริญก้าวหน้า เป็นผู้นำชุมชนที่ชาวบ้านต่างรักและเคารพนับถือ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นขุนพิศาลจีนะกิจ และได้เลื่อนยศเป็นพระศรีพนมมาศ ในปี พ.ศ. 2451
ตลาดสดเทศบาลศรีนพมาศ
ตลาดสดเทศบาลศรีนพมาศ เป็นตลาดสดขนาดกลางของเมืองลับแล สวยโดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์จีนโบราณ ภายในตลาดมีทั้งผัก-ผลไม้สดพื้นบ้าน, เนื้อหมูสด, เนื้อไก่สด, เนื้อวัวสด, อาหารปรุงสำเร็จรูป, อาหารท้องถิ่น, ขนมพื้นบ้าน, เสื้อผ้าแฟชั่น, สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น โดยจะเปิดทุกวัน ในช่วงเช้าตรู่
บ้านราษฎร์สุดใจ
บ้านราษฎร์สุดใจ ตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนคอกช้าง มีลักษณะเป็นบ้านไม้โบราณอายุมากกว่า 100 ปี ตัวบ้านเป็นเรือนไม้ 2 หลังเชื่อมต่อกัน ด้านหน้าเป็นเรือนของเจ้านายผู้เป็นเจ้าของบ้านและเรือนด้านหลังเป็นเรือนของบ่าวไพร่ ภายในบ้านยังคงเก็บรักษาของเก่าไว้มากมาย ที่นี่เปิดให้เข้าชมเป็นบางวันเท่านั้น เพราะปัจจุบันลูกหลานยังคงอาศัยอยู่ หากต้องการเข้าเยี่ยมชมต้องติดต่อล่วงหน้า โทรศัพท์ 0 5543 1013
พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจก ไท-ยวนลับแล
พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจก ไท-ยวนลับแล ตั้งอยู่ที่ตำบลชัยจุมพล ก่อตั้งโดย คุณจงจรูญ (โจ) มะโนคำ อาคารพิพิธภัณฑ์เป็นเรือนไทยกึ่งปูนครึ่งไม้สวยงาม ใต้ถุนยกสูง โดยชั้นล่างสุดนั้นจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องทอผ้าโบราณ ชั้นบนจะจัดแสดงผ้าซิ่นตีนจกเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่าร้อยปี พร้อมทั้งผ้าซิ่นตีนจกที่ถักทอขึ้นใหม่แต่ยังคงมีลวดลายดั้งเดิมของท้องถิ่น พร้อมกับมีรูปเก่าแสดงความเป็นมาของผ้าไทยโบราณในเมืองลับแลและอุตรดิตถ์ด้วย ผลิตภัณฑ์ของที่นี่จะเป็นผ้าทอมือที่มีความประณีต มีลวดลายไม่เหมือนใคร ผ้าซิ่นทุกผืนที่ทำขึ้นมานั้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก ราคาจึงสูงกว่าผ้าซิ่นที่อื่น แต่ก็คุ้มค่ากับความประณีต ติดต่อขอเข้าชม โทรศัพท์ 08 7198 7353
วัดพระแท่นศิลาอาสน์
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ตั้งอยู่ที่บนเนินเขาเต่า บ้านพระแท่น ตำบลทุ่งยั้ง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองลับแล มีสิ่งที่สำคัญ ก็คือ พระแท่นศิลาอาสน์ มีลักษณะเป็นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 8 ฟุต ยาว 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ตัวฐานประดับด้วยกลีบบัว โดยมีความเชื่อกันว่าครั้งหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับเพื่อทรงกระทำบำเพ็ญอธิษฐานพระบารมี ณ แท่นศิลาแลง หลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้วัดมณฑปและวิหารเมื่อปี พ.ศ. 2451 ก็คงเหลือไว้เพียงแท่นศิลาแลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่นอกจากนี้ภายในวัดก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น บานประตูวิหารพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งเป็นประตูไม้สักแกะสลักสวยงาม นำมาจากวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก, ภาพวาดเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของราชวงศ์จักรีในพระวิหาร และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น เที่ยวอุตรดิตถ์