เที่ยวไทย

4 ที่เที่ยว หนองคาย ชมความงามริมลำน้ำโขง ส่องตำนานพญานาค

ที่เที่ยว หนองคาย

หัวข้อแนะนำ

ที่เที่ยว หนองคาย  เมืองแห่งพญานาค ดินแดนเลียบแม่น้ำโขง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจ ด้วยภูมิประเทศที่ทอดยาวตามลำน้ำโขง เป็นที่ราบสูงและภูเขา จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่มีมนตร์เสน่ห์ ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เพียบ แถมในทุก ๆ ปีของวันออกพรรษา จะมีปรากฎการณ์ประหลาด ที่เรียกว่า “บั้งไฟพญานาค” ลูกไฟลอยขึ้นจากน้ำสู่อากาศ ที่ต้องมาลองชมสักครั้งใชชีวิต ส่วนการเดินทางมาหนองคาย ก็มาได้ทั้งรถบัส, รถไฟ และเครื่องบิน โดยจองตั๋วมาลงที่ท่าอากาศยานอุดรธานี แล้วต่อรถมายังจังหวัดหนองคาย ในระยะราว ๆ 50 กิโลเมตร ก็ถึงแล้ว ใครจะมาเที่ยวหนองคาย แต่ไม่รู้จะไปไหนดีขอแนะนำที่เที่ยวหนองคาย ชมความงามริมลำน้ำโขง ไหว้พระธาตุ ส่องตำนานพญานาค เอาไว้ให้คุณลิสต์สถานที่ต่าง ๆ แล้วมาเที่ยวหนองคายอย่างมีความสุขและคุ้มค่ากันดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา พร้อมแล้วก็ตามมาส่องกันค่ะ

ที่เที่ยว หนองคาย วัดโพธิ์ชัย

วัดโพธิ์ชัย

ที่เที่ยว หนองคาย  สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก วัดโพธิ์ชัย เดิมชื่อ วัดผีผิว เนื่องจากเคยใช้เป็นสถานที่ฌาปนกิจ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดโพธิ์ชัยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวหนองคาย ขนาดหน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว สูง 4 คืบ 1 นิ้ว หล่อด้วยทองสีสุก มีลักษณะงดงามมาก มีตำนานเล่าว่า พระธิดา 3 พระองค์ ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ นามว่า พระสุก พระใส และพระเสริม ประดิษฐานอยู่ ณ เวียงจันทร์ ประเทศลาว จนสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ข้ามแม่น้ำโขงมาประดิษฐานอยู่ที่หนองคาย แต่ขณะขนย้ายเกิดพายุหนัก จึงทำให้พระสุกตกน้ำและจมหายไป จึงเหลือเพียงแค่ 2 องค์ ที่มาประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย จนถึงสมัยรัชที่ 4 พระเสริม ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ เหลือไว้เพียงพระใสที่ยังคงประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้มาจนปัจจุบัน ในช่วงวันสงกรานต์ทุก ๆ ปี จึงจะมีประเพณีอันเชิญพระใสมาให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวลาวได้สรงน้ำบูชา ทำให้ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย คนที่เดินทางมาหนองคายมักจะนิยมแวะเข้ามากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองกันทั้งนั้น  วัดโพธิ์ชัย

ศาลาแก้วกู่ (อุทยานเทวาลัย)

ศาลาแก้วกู่ (อุทยานเทวาลัย)

ศาลาแก้วกู่ (อุทยานเทวาลัย) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดแขก เป็นสวนสาธารณะของศูนย์ปฏิบัติธรรมแก้วกู่ธรรม มีเนื้อที่ 42 ไร่ สร้างโดยคุณปู่ บุญเหลือ สุรีรัตน์ เมื่อปี พ.ศ. 2521 ภายใต้แนวคิด “ทุกศาสนาอยู่ได้ ร่วมกัน” เป็นสถานที่ที่สื่อถึงภาพดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง ภายในอุทยานมีประติมากรรมคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่กว่า 200 ชิ้น รวบรวมวัตถุมงคลจากแต่ละศาสนาไว้ด้วยกัน ได้แก่ พระพุทธรูป เทพเจ้าในศาสนาฮินดู บุคคลในศาสนาคริสต์ พระโพธิสัตว์ วรรณกรรม นิทานพื้นบ้าน และความเชื่อต่างๆ ที่ฐานของรูปปั้นแต่ละชิ้นจะมีคำจารึกอธิบายงานชิ้นนี้ ความคิดและคำเตือนสองภาษา (ไทยและอีสาน) เป็นสวนสาธารณะที่วิจิตรงดงามและยิ่งใหญ่กว่าที่ปู่บุญลือเคยสร้างในประเทศลาว มันดูคล้ายกับ Bamorza ในอิตาลีด้วย

น้ำตกธารทิพย์

น้ำตกธารทิพย์

น้ำตกธารทิพย์  น้ำตกที่สวยงามท่ามกลางป่าไม้อันเขียวชอุ่ม น้ำตกธารทิพย์ แหล่งน้ำไหลจากยอดเขาที่สูงที่สุดในหนองคาย เช่น “ภูย่าอ่าว” ซึ่งมีน้ำตก 3 ชั้น มีความสูง 875 เมตร ทุกระดับไหลจากหน้าผาเป็นเส้นตรงลงมาเท่ากันทั้งสูงและแคบ มีแอ่งกว้างและตื้น จะเล่นคลายร้อนหรือแช่ตัวก็ได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำให้เลือกมากมาย โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์กลางป่าเขาสูง เมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้มีหลายชื่อ บางคนว่า “น้ำตกตาดเสริม” เพราะอยู่บริเวณเดียวกับหมู่บ้านตาดเสริม บางคนเรียกว่า “น้ำตกตาดหมอก” เพราะในฤดูหนาวที่นี่จะมีหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ สามารถเดินทางเกินอำเภอสังคมไปได้นิดหน่อย ตามทางหลวงหมายเลข 211 ถึง กม. 97 – 98 จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นี่ถึงน้ำจะเยอะก็เที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่ขอบอกถ้าอยากมาชมด้วยตัวเอง เอง แนะนำว่าช่วงหน้าฝนถึงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดค่ะ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสิรินธร ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน เสมือนโลกจำลองใต้บาดาลถูกยกขึ้นมาไว้ตรงหน้าแถมยังมีอุโมงค์ใต้น้ำความยาวกว่า 34 เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 8 กิโลเมตร ภายในมีการจัดแสดงสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ มากมายบนพื้นที่รวมกว่า 4848 ตรม. ที่จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำมากถึง 9 กลุ่ม 18 ระบบ จำนวนกว่า 150 ชนิด ทั้งปลาน้ำเค็มที่จัดแสดงอยู่บริเวณชั้น 2 และ ปลาน้ำจืด, ปลาโบราณพื้นบ้าน และปลาลุ่มน้ำโขงที่จัดแสดงอยู่ทางชั้นล่างอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งนอกจากวันจันทร์แล้วที่นี่ยังมีการแสดงโชว์ดำน้ำให้อาหารปลา ที่สามารถรับชมได้ทุกวันเลยนะ เวลาก็ตามนี้เลย วันอังคาร – วันศุกร์ เฉพาะเวลา 14.00 น. ส่วนวันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี 2 รอบ คือ เวลา 11.00 น. และเวลา 14.00 น. ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาเที่ยวที่นี่สุด ๆ เลยนะ รับรองว่าถ้าหากพาน้อง ๆ หนู ๆ มาด้วย พวกเด็ก ๆ จะต้องชอบที่นี่แน่นอนเลยล่ะ  ที่เที่ยว หนองคาย

บทความแนะนำ